หลวงพ่อสด จันทะสโร
(พระมงคลเทพมุนี)
วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร
ว่าในด้านภาวนา กายนี้มีซ้อนกันเป็นชั้น ๆ มีกายทีย์ซ้อนอยู่ในกายมนุษย์ การรูปพรหมซ้อนอยู่ในการทิพย์ การอรูปพรหรซ้อนอยุ่ในกายรูปพรหม กายธรรมซ้อนอยู่ในการอรูปพรหม คนเราที่ว่าตายนั้นคือ กายทิพย์การกับมนุษย์หนุดพรากออกจากกันเหมือนมะขามกะเทาะล่อนจากเปลือกฉะนั้น กายทิพย์ก็หลุดจากการมนุษย์ไป
สุขในฌานอะไรจะไปสู้ ในภพนี่ไม่มีสุขเท่าถึงดอก สุขในณามมะ สุขนักหนาทีเดียว เต็มส่วนความสุขก็หนึ่ง เฉยวิเวกวังเวงเปลี่ยวเปล่า เรามาคนเดียว ไปคนเดียวหมดทั้งสากลโลก คนทั้งหลายไปคนเดียวทั้งนั้น ไม่มีคู่สองเลย จะเห็นว่าลูกสักคนหนึ่งก็ไม่มี สามีสักคนหนึ่งก็ไม่มีภรรยาสักคนหนึ่งก็ไม่มี ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างตาย ต่างคนต่างเกิด เป็นอย่างนี้ ปล่อยหมด ไม่ว่าอะไรไม่ยึดถือที่เดียว เรือกสวนไร่นาตึกร้านบ้านช่องก่อนเราเกิดมาก็มีอยู่อย่างนี้หญิงชายก็มีอยู่อย่างนี้ เราเกิดแล้วก็มีอยู่อย่างนี้ เราตายไปแล้วมันก็มีอยู่อย่างนี้ เห็นดิ่งลงไปทีเดียวเข้าปฐมฌานเข้าแล้วเห็นดิ่งลงไปเช่นนี้
“การปฏิบัติ ไม่หยุดไม่ถึงพระ ตัวหยุดนี่แหละเป็นตัวสำเร็จ”
“พระรัตนตรัยเป็นแก้วที่แท้จริง หรือเปรียบด้วยแก้ว ถ้าเป็นทางปริยัติเข้าใจตามอักขระแล้ว เป็นอันเปรียบด้วยแก้ว ถ้าเป็นทางปฏิบัติแล้ว เป็นแก้วจริงๆ” ภาวนํ ภาวเวติ ทำให้จริงให้หยุด ให้นิ่ง ทำให้มี ให้เป็นขึ้น กี่ร้อย กี่พันคนก็นอนหลับสบาย กี่คนๆก็สงบนิ่ง เมื่อสงบนิ่งแล้ว มีคนสักเท่าไร ก้ไม่รกหูรกตา ไม่รำคาญไม่เดือดร้อน เป็นสุขสำราญเป็นนิจ นี่เขาเรียกว่า ภาวนา ทำให้ใจหยุดสงบ ในการบำเพ็ญภาวนาความเพียรสำคัญยิ่ง ต้องทำเสมอ ทำเนืองๆ ทุกอิริยาบถ ไม่ว่า นั่ง นอน เดิน ยืน และทำเรื่อยไป อย่าหยุด อย่าละ อย่าทอดทิ้ง อย่าท้อแท้มุ่งรุดหน้าเรื่อยไป ผลจะเกิดวันหนึ่ง ไม่ต้องสงสัย ผลเกิดขึ้นอย่างไรท่านรู้ได้ตัวของท่านเอง
วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น