หลวงพ่อจริล ฐิตธัมโม
(พระราชสุทธิญาณมงคล)
วัดอัมพวัน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
การที่เราหันจิตใจมารักษาศิลกินธรรมนี้ จงมีความตั้งใจให้จริง เพราะธรรมมะของพระพุทธเจ้านี้เป็นทิพย์ ไม่มีความอิ่มอันใดจะเสมอเหมือน การอิ่มธรรม
ความอิ่มในรสชาติอาหารนั้น เป็นเพียงส่วนประกอบให้แก่ธาติขันธ์เท่านั้น เป็นความไม่เที่ยงเสื่อมสลายลงได้ เมื่ออิ่มไปชั่วขณะก็หิวอีกอย่างนี้เป็นต้น แต่ธรรมะเป็นของสมบูรณ์ อิ่มแล้วจะมีความอิ่มที่คงทนถาวรไม่เสื่อมสลาย ผู้ใดมีธรรมเป็นเครื่องอยู่อาศัย บุคคล ผู้นั้นจะมีความอิ่มความพอ
แม้ธรรมนั้นจะมิได้เป็นรูปร่างที่มองเห็นกันด้วยตาเนื่อ แต่ธรรมเป็นธรรมชาติอันละเอียดสุขุม สุดที่จะนำมาเปรียบเทียบกับของสมมุติทั้งหลายได้
ใจเป็นความละเอียดฉันใด ธรรมก็เป็นของละเอียดสุขุมฉันนั้น และใจนี้แหละเป็นที่สถิตของธรรมทั้งปวง ผู้ปฏิบัติธรรมจงพยายามศึกษาค้นคว้าวิปัสสนาให้เที่ยงแท้ด้วยสติปัญญา จึงจะบังเกิดเห็นผลแก่ท่านด้วยดี
อันวิชาศาสตร์ต่าง ๆ นั้น อาตมาขอศึกษาให้รู้ว่ามีจริงเท่านั้น เมื่อรู้แล้วก็หยุด ที่หยุดไม่ได้คือ การปฏิบัติสมถะและวิปัสสนากรรมฐาน ต้องดำเนินไปเสมอไม่ขาดตอน จะขาดตอนไม่ได้เป็นอันขาด
วันพฤหัสบดีที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น